ขอบคุณโชคชะตา

แปดโมงเช้าวันเสาร์ ช่างเป็นวันที่นอนหลับเต็มอิ่มกว่าวันอื่นๆ เพราะไม่ต้องตื่นแต่เช้าและรีบไปเรียน เช้านี้ หลังจัดการตัวเองเรียบร้อย ฉันจึงยังคงนอนเอกเขนกอยู่บนเตียงพลางเล่นโทรศัพท์มือพลาง ราวสิบโมง เสียงเรียกเข้ามือถือได้ดังเตือนแถมหน้าจอก็โชว์ชื่อผู้ที่โทร.เข้ามา ฉันรีบกดรับสาย เพราะรู้ว่า ต้นสายมักชอบบ่นเวลาที่รับสายช้า ซึ่งฉันไม่อยากจะได้ยินคำบ่นยามเช้าแบบนี้
“พิณ ว่ายังไงจ๊ะ โทร.หามีอะไรหรือเปล่า”
“แกทำอะไรอยู่ ลุกจากเตียงหรือยัง” พิณทองไม่ตอบคำถาม แต่ถามกลับทันควันแทน
“ทำอะไรเรียบร้อยแล้วล่ะ แต่ยังนอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง แล้วแกมีอะไรหรือเปล่าอะ” ฉันว่าพลางถามย้ำอีกครั้ง
“มีสิ” เสียงพิณทองตอบสั้นๆ ฉันจึงเร่งให้ขยายความ
“มีก็ว่ามาโลดได้เลย”
“ฉันมีเรื่องจะบอก แล้วก็จะชวนแกมาบ้าน วันนี้แม่จะทำข้าวคลุกกะปิของโปรดแกนะ” คำบอกกล่าวของพิณทองตรงประโยคสุดท้ายทำเอาฉันตาโตและรีบตอบตกลงทันที
“ว้าว ข้าวคลุกกะปิฝีมีแม่น้อย อร่อยสุดยอด ตกลง สักพักฉันจะไปบ้านแก ว่าแต่ เรื่องที่แกจะบอกนั่น มันอะไรล่ะ”
“แกมาที่บ้าน แล้วแกจะเห็นกับตาเอง” สุ้มเสียงเชิญชวนของพิณทอง ทำเอาความอยากรู้อยากเห็นของฉันโพยพุ่ง
เมื่อวางสายของพิณทอง ฉันรีบแต่งเนื้อแต่งตัวด้วยชุดทะมัดทะแมงตามแบบฉบับ จากนั้นก็ขับมอเตอร์ไซค์คันเก่งไปหาพิณทองที่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของฉันนัก พอถึง พิณทองก็ออกมาเปิดประตูและพาไปสวัสดีแม่น้อยในครัว แล้วพาไปนั่งที่ห้องรับแขก ซึ่งสมาร์ททีวีที่ทั้งใหญ่และใหม่ได้เปิดภาพค้างไว้แล้ว
“พิณ ไหนแกว่ามีอะไรจะให้ฉันเห็นไง” ฉันถามด้วยความอยากรู้
พิณทองไม่ตอบคำถาม ทำเพียงยิ้มๆ และเดินไปที่สมาร์ททีวี หยิบรีโมท แล้วกดปุ่ม ก่อนจะเอ่ย
“นี่ไง ที่ฉันอยากจะให้แกมาเห็นกับตา”
“แกจะให้ฉันดูหนังดีวีดีเหรอ” ฉันถามตรงๆ ทั้งสีหน้าและดวงตา
“ไม่ใช่หนังดีวีดี แต่มันเป็นหนังใหม่ออนไลน์” แล้วพิณทองก็ไขข้อข้องใจ
“หือ?” เครื่องหมายคำถามยังอยู่เต็มใบหน้าของฉัน
“แกยังไม่เคยได้ดูที่ไหนไม่ใช่เหรอ พ่อซื้อทีวีใหม่ มันใหญ่และภาพชัด แล้วก็ติดอินเตอร์เน็ตแบบความเร็วสูง ฉันก็เลยชวนแกมาบ้านไง” เจ้าของบ้านพูดไปยิ้มไป
ด้วยความที่ฉันกับพิณทองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ฉันจึงรู้จักนิสัยของพิณทองดี แล้วด้วยความที่ครอบครัวของพิณทองค่อนข้างจะมีฐานะดีกว่าฉัน พิณทองมักจะแบ่งปันของเล่นและขนมแก่ฉันเสมอ เป็นแบบนี้มานานนมแล้ว ครั้งนี้ก็เหมือนกัน พิณทองต้องการจะแบ่งปันความบันเทิงให้ฉัน
“ดูกันเลยนะ แล้วพอเที่ยงค่อยกินข้าวคลุกกะปิกัน” พิณทองว่า แล้วก็มานั่งลงข้างฉัน จากนั้นเราสองคนก็บันเทิงกับหนังใหม่ออนไลน์ ซึ่งสนุกจริงๆ
ฉันดีใจมากๆ ที่เพื่อนมีน้ำใจกับฉันเสมอมา พิณทองไม่เคยเรียกร้องอะไรจากฉันเลย แล้วฉันก็ไม่เคยจะเรียกร้องหรืออิจฉาพิณทองเลย เราสองคนต่างรู้หน้าที่ของกันและกันเป็นอย่างดีว่าจะต้องวางตัวกันอย่างไร…ขอบคุณโชคชะตาที่นำพาเราสองคนมาพบและอยู่ในชีวิตของกันและกัน ซึ่งมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป